Jacquard ไหมไมโครไฟเบอร์โพลีเอสเตอร์แฟชั่นเรขาคณิต Tie
พูดได้เลยว่าเนคไทกับสูทเป็นพี่น้องฝาแฝดการผลิตและการพัฒนาเนคไทมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการเปลี่ยนแปลงของเสื้อผ้าบุรุษในยุโรปในศตวรรษที่สิบเจ็ดชายชาวยุโรปในศตวรรษที่สิบเจ็ดสวมชุดรัดรูป ต่างหู เสื้อเชิ้ตลายดอก กำมะหยี่ และทรงผมที่โค้งมนสูงพร้อมหมวกแก๊ปเล็กๆ ที่ถือไม้ฟริ้งในคำนับเสื้อเชิ้ตใส่เป็นกางเกงใน คอปกค่อนข้างหรูหรา คอปกสูงมีลูกไม้เป็นวงกลม คอปกปักด้วยนัวเนียสวยงาม คอปกพับพับเป็นพวงหรีด และคอเสื้อเปิดออกมองเห็นได้จากเสื้อคลุมเหนือเสื้อเป็นเสื้อกั๊ก ต่อมาเป็นเสื้อโค้ทสั้น ถุงน่อง และกางเกงรัดรูปเสื้อผ้าฟุ่มเฟือยและฟุ่มเฟือยแบบนี้เป็นเสื้อผ้าที่ทันสมัยที่สุดในบรรดาขุนนางในเวลานั้นมันเป็นเสื้อผ้าที่เป็นผู้หญิงและละเอียดอ่อน และเป็นเสื้อผ้าผู้ชายทั่วไปในสไตล์ “โรโคโค”ผู้ชายที่ใส่เสื้อผ้าแบบนี้ “ต่างจากผู้หญิงเท่านั้นเพราะไม่มีล้อหมุน”ในเวลานั้นมีความพยายามหลายอย่างในการเปลี่ยนเสื้อผ้าของผู้ชาย แต่ผลลัพธ์ก็ไร้ประโยชน์ จนกระทั่งการปฏิวัติของชนชั้นนายทุนฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 18 จนกระทั่งชีวิตของขุนนางในราชสำนักสิ้นสุดลงและผู้ชายก็ยอมแพ้อย่างงดงาม เสื้อผ้าและเปลี่ยนเป็นชุดเรียบง่ายในขณะนั้น เสื้อผ้าของจักรพรรดิที่คล้ายกับทักซิโด้เป็นที่นิยม: ท่อนบนเป็นเอวสูง กระโปรงมีรูพรุนตามธรรมชาติ คอเสื้อขนาดใหญ่เสริมด้วยแขนเสื้อโคม และชุดเดรสอยู่ใต้อกเล็กน้อยเนคไทผ้าไหมสีดำหรือผูกโบว์เนคไทมีลักษณะเป็นผ้าพันคอ ทำด้วยผ้าลินินสีขาว ผ้าฝ้าย ผ้าไหม ฯลฯ พันรอบคอสองครั้ง ไขว้ที่ด้านหน้าคอเสื้อ แล้วห้อยลงมา หรือผูกเป็นโบว์สิ่งนี้สามารถเห็นได้ในนวนิยายของฝรั่งเศสเรื่อง “The Tie”: “คอเสื้อสีเขียวเข้มของเขาตั้งสูงมาก เขาสวมเสื้อกั๊กสีม่วงที่หนานจิง และผูกเนคไทผ้าไหมสีดำกว้างรอบคอของเขาสามครั้ง”ว่ากันว่ากวีไบรอนมีความเฉพาะเจาะจงมากเกี่ยวกับการผูกเนคไทเมื่อถึงเวลาที่เขาอยู่ในรูปแบบที่น่าพอใจ ความสัมพันธ์ที่ถูกละทิ้งก็ทวีขึ้นราวกับภูเขาสมัยนั้นผู้หญิงก็ผูกเนคไทด้วยเจ้าหญิงแอนชอบที่จะรวมริบบิ้นสีดำและเนคไทลูกไม้เข้าด้วยกันเพื่อสร้างโบว์ที่สง่างามและเป็นเอกลักษณ์